
ประวัติความเป็นมา
2566
พฤศจิกายน 2566
“โรงแรมโซ/ มัลดีฟส์” (SO/ Maldives) รีสอร์ทแห่งที่ 3 ของโครงการ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS) เริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยเป็นโรงแรมไลฟ์สไตล์ระดับ 5 ดาว ที่ประกอบด้วยวิลล่าสุดหรูจำนวน 80 หลัง ทั้งแบบริมชายหาด (Beachfront) และแบบวิลล่าเหนือน้ำ (Over-water) ที่บริหารงานโดยแอคคอร์ (Accor) เป็นการยกระดับโครงการ CROSSROADS ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการพักผ่อนชั้นนำแบบบูรณาการ ซึ่งนำเสนอตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม
ตุลาคม 2566
บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ต่อนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี ด้วยมูลค่าเสนอขายทั้งสิ้น 1,300 ล้านบาท
กรกฎาคม 2566
บรรลุข้อตกลงการซื้อที่ดินพร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้าง และอุปกรณ์ติดตั้ง ของโรงแรม Mercure Glasgow ในสหราชอาณาจักร มูลค่ารวม 7.5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือเทียบเท่า 338.4 ล้านบาท) ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการโรงแรมในสหราชอาณาจักร และกลยุทธ์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ
พฤษภาคม 2566
ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กร เป็นครั้งแรกที่ระดับ “BBB+” จากทริสเรทติ้ง โดยมีแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือคงที่ หรือ Stable ตอกย้ำคุณภาพที่ดีของสินทรัพย์โรงแรมของบริษัทฯ ที่สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง
มกราคม 2566
โรงแรมของบริษัทฯ ในประเทศไทยและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย โรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต โรงแรม ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ โรงแรมฮาร์ดร๊อค มัลดีฟส์ และโรงแรม ทราย ลากูน มัลดีฟส์ รวมถึงโครงการ CROSSROADS ในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ได้รับการรับรอง Green GlobeTM Certificate ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
2565
พฤศจิกายน 2565
บริษัทฯ ติดอันดับรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2565 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นปีแรก ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างต่อเนื่อง
ตุลาคม 2565
บริษัทฯ บรรลุข้อตกลงการขายโรงแรม Mercure London Watford ในสหราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารจัดการโรงแรมในกลุ่มสหราชอาณาจักร เป็นไปตามทิศทางที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
สิงหาคม 2565
บริษัทฯ ดำเนินการเข้าซื้อสัญญาเช่าหลัก (Head Lease) บนที่ดินของโรงแรม Mercure Perth โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพของพอร์ตการลงทุนในสหราชอาณาจักร
พฤษภาคม 2565
บริษัทฯ เดินหน้ากลยุทธ์หมุนเวียนขายสินทรัพย์ เพื่อต่อยอดการลงทุนพัฒนาโรงแรมที่มีศักยภาพสูง โดยได้บรรลุข้อตกลงการขายโรงแรมเมอร์เคียว เบอร์ตัน อัพพอน (Mercure Burton upon Trent Newton Park Hotel) ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นไปตามแผนการขายโรงแรมที่มีศักยภาพในการทำกำไรอย่างจำกัด โดยโรงแรม Mercure Newbury Elcot Park เป็นโรงแรมขนาด 50 ห้อง คิดเป็นมูลค่า 2 ล้านปอนด์ โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์แห่งนี้จะถูกนำไปลงทุนใหม่เพื่อยกระดับสินทรัพย์อื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรที่มีศักยภาพการแข่งขันสูง
บริษัท ฯ บรรลุข้อตกลงการขายโรงแรม Mercure Burton upon Trent Newton Park ใน สหราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารจัดการโรงแรมในกลุ่มสหราชอาณาจักร เป็นไปตามทิศทางที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
2564
กรกฎาคม 2564
บริษัทฯ ลงนามข้อตกลงบริหารจัดการโรงแรมของ“โซ/ โฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท” (SO/ Hotels & Resorts) กับทาง Wai Eco World Developer Pte. Ltd. (WEWD) โดยรีสอร์ทแห่งใหม่นี้นับเป็นรีสอร์ทลำดับที่ 3 ของ “ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์” ซึ่งวางแผนเปิดตัวในปี 2566
เมษายน 2564
บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงการขายโรงแรม Mercure Newbury Elcot Park ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นไปตามแผนการขายโรงแรมที่มีศักยภาพในการทำกำไรอย่างจำกัด โดยโรงแรม Mercure Newbury Elcot Park เป็นโรงแรมขนาด 73 ห้อง คิดเป็นมูลค่ารวม 4.25 ล้านปอนด์ (หรือเทียบเท่า 182 ล้านบาท) โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ดังกล่าว จะนำไปลงทุนพัฒนาปรับปรุงโรงแรมชั้นนำของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และต่อยอดประสิทธิภาพในการทำกำไรของพอร์ตโฟลิโอ
กุมภาพันธ์ 2564
บริษัทฯ ดำเนินการเปลี่ยนสัญญาของโรงแรมที่ปัจจุบันดำเนินการโดยแบรนด์ Outrigger จำนวน 3 แห่ง จากทั้งหมด 6 แห่งภายใต้สัญญาบริหารจัดการโรงแรม กลับมาบริหารจัดการด้วยตัวเอง (Self-managed) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในการนี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวรีสอร์ท ภายใต้แบรนด์ “SAii” อีก 2 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ ทรายลากูน่าภูเก็ต (SAii Laguna Phuket) และ ทรายพีพีไอส์แลนด์วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village)
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ S Hotels and Resorts (UK) Limited (“SHR UK”) บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมร้อยละ 100 เข้าซื้อหุ้นสามัญของ FS JV Co., Ltd. (“FS JV”) จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 ปอนด์ หรือ คิดเป็นร้อยละ 50 ของทุนที่ชำระแล้ว จากผู้ร่วมทุนเดิม FICO Holding (UK) Limited (“FICO UK”) โดยใช้มูลค่าเงินลงทุน 13.75 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 564.49 ล้านบาท) ภายหลังการทำรายการ SHR UK จะถือหุ้นใน FS JV ร้อยละ 100 และทำให้ FS JV เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และจะรับรู้ผลการดำเนินงาน ในรูปแบบงบการเงินรวมของบริษัทฯ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2564 เป็นต้นไป
2563
ธันวาคม 2563
บริษัทฯ ได้พัฒนาไลฟ์สไตล์แบรนด์ SAii (ทราย) ของตนเองขึ้นมาในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ด้วยบุคลิกแบรนด์ที่สนุกสนาน ภายใต้แนวคิดการผสานจุดแข็งที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย อาทิ ความมีน้ำใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความเป็นมิตร ควบคู่ไปกับความคิดสร้างสรรค์ และกลิ่นอายของจุดหมายปลายทาง ซึ่งการพัฒนาแบรนด์นี้จะมีบทบาทสำคัญในการขยายการลงทุน และเพิ่มพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคต
2562
พฤศจิกายน 2562
เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ SHR ในหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ ภายหลังการเพิ่มทุน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ยังคงดำรงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ ที่ร้อยละ 60 ของทุนชำระแล้ว
เข้าลงนามในสัญญาร่วมทุนสำหรับการพัฒนาโครงการแบบ Luxury lifestyle resort บนเกาะ 3 ของโครงการ CROSSROADS กับ Eco World Developer Co., Ltd
กันยายน 2562
เปิดดำเนินการโรงแรม 2 แห่งได้แก่ โรงแรม SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton และโรงแรม Hard Rock Hotel Maldives รวมถึงศูนย์รวมการให้บริการ (complex) เพื่อการพักผ่อนและสิ่งบันเทิงภายใต้ในโครงการ Marina @ CROSSROADS ที่โครงการ Crossroads ในประเทศมัลดีฟส์


เมษายน 2562
บริษัทฯ มีมติการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้น IPO และรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่จะออกขายต่อประชาชน (PO Warrant)
2561
มิถุนายน 2561
เข้าซื้อโรงแรม Outrigger จำนวน 6 แห่งใน 4 ประเทศ ได้แก่ โรงแรม Outrigger Laguna Phuket Beach Resort ในประเทศไทย และโรงแรม Outrigger Koh Samui Beach Resort ในประเทศไทย โรงแรม Outrigger Fiji Beach Resort และโรงแรม Castaway Island ในสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ โรงแรม Outrigger Mauritius Beach Resort ในสาธารณรัฐมอริเชียส และโรงแรม Outrigger Konotta Maldives Resort ในสาธารณรัฐมัลดีฟส์

พฤษภาคม 2561
เพิ่มห้องพักแบบวิลล่าขนาดใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำซึ่งเป็นห้องพักลูกค้ารูปแบบใหม่อีกจำนวน 19 ห้อง (Grand Reserve Pool Villa) ที่โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย
2560
มกราคม 2560
เริ่มดำเนินการถมที่ดิน การปกป้องแนวชายฝั่ง การกำหนดภูมิทัศน์ และการก่อสร้างโครงการ Crossroads

2559
พฤศจิกายน 2559
โรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท ได้ดำเนินการปรับปรุงห้องพักบังกะโลระดับ Superior จำนวน 45 หลัง บังกะโลระดับ Standard จำนวน 110 หลัง และร้านอาหารของโรงแรม 3 ร้าน
กันยายน 2559
เข้าทำสัญญากิจการร่วมค้ากับ FICO UK เพื่อเข้าซื้อโรงแรมในสหราชอาณาจักรจำนวน 3 แห่ง ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ Holiday Inn 2 แห่ง และภายใต้แบรนด์ Mercure 1 แห่ง


2558
ตุลาคม 2558
เข้าทำสัญญากิจการร่วมค้ากับ FICO UK เพื่อเข้าซื้อโรงแรมในสหราชอาณาจักรจำนวน 26 แห่ง ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวและ 4 ดาว และดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ Mercure

เมษายน 2558
โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย ได้เพิ่มห้องพักแบบวิลล่าขนาดใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำ (Grand Deluxe Pool Villas) จำนวน 6 ห้อง
2557
พฤศจิกายน 2557
เข้าซื้อโรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ทริมชายหาดระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่บนเกาะพีพีดอน จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย

เมษายน 2557
เข้าซื้อโรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย หนึ่งในรีสอร์ทริมชายหาดระดับ 5 ดาวลำดับแรก ๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทิศเหนือของเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
